หน้าแรก  >  บทความ  >  

คริสตัล พาเลซ พบ ลิเวอร์พูล

27/09/2025
คริสตัล พาเลซ พบ ลิเวอร์พูล

คริสตัล พาเลซ พบ ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2568: คริสตัล พาเลซ เปิดเซลเฮิร์สต์ พาร์ค รับมือ ลิเวอร์พูล เกมนี้ถือเป็นบททดสอบความต่อเนื่องของเจ้าถิ่นยุคโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ที่ยกระดับมาตรฐานทีมและเก็บแต้มจากบิ๊กซิกซ์ได้มากขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังซีซัน 2023/24 ขณะที่ลิเวอร์พูลภายใต้ อาร์เน่ สลอต เดินหน้าเข้าสู่ฤดูกาลที่สองของโปรเจ็กต์ใหม่ เน้นคอนโทรลเกมและความยืดหยุ่นในโครง 4-2-3-1/4-3-3

ในภาพรวมของทั้งสองสโมสร: พาเลซมีเสถียรภาพเกมรับมากขึ้นและอันตรายในทรานซิชัน-ลูกตั้งเตะ ส่วนลิเวอร์พูลยังคงเป็นหนึ่งในทีมที่สร้างโอกาสคุณภาพสูงสุดของลีกต่อเนื่อง การเผชิญหน้ากันล่าสุดในปี 2023/24 มีสีสัน: ลิเวอร์พูลบุกชนะที่ลอนดอน (2-1) แต่พาเลซบุกชนะที่แอนฟิลด์ (0-1) แสดงให้เห็นว่ากลาสเนอร์อ่านทางบิ๊กเกมได้ดี

การเปรียบเทียบสถิติสำคัญ

อ้างอิงแนวโน้มจากฐานข้อมูลสาธารณะ (SofaScore, WhoScored, Transfermarkt) และผลงานจนจบฤดูกาล 2023/24 ซึ่งยังสะท้อนโครงสร้างคุณภาพของทั้งสองทีมได้ชัดเจน

- เกมรุก: ลิเวอร์พูลติดท็อป 3 ของลีกทั้งจำนวนโอกาสยิงต่อเกม, การยิงตรงกรอบ และค่า xG ต่อเกม ขณะที่พาเลซอยู่โซนกลางตารางแต่ “ค่า xG ต่อเกม” พุ่งขึ้นชัดในช่วง 10 นัดท้ายซีซัน 2023/24 ภายใต้กลาสเนอร์

- เกมรับ: ลิเวอร์พูลอยู่ในกลุ่มท็อป 4 ของลีกในเชิง xGA ต่อเกม และจำกัดโอกาสคุณภาพของคู่แข่งได้ดีจากการเพรสซิ่งระยะกลางสู่สูง; พาเลซลดจำนวนการเสียประตูเฉลี่ยในครึ่งหลังซีซัน 2023/24 และมีอัตราเคลียร์บอล-บล็อกช็อตสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อยืนในบล็อกกลางลึก (mid/low block)

- เพรสซิ่ง/การครองบอล: ลิเวอร์พูลมี PPDA ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยลีกอย่างมีนัย (แปลว่ากดดันคู่แข่งเร็ว) และครองบอลเฉลี่ยสูงกว่าครึ่งสนามคู่แข่งบ่อย ส่วนพาเลซเพรสเป็นจังหวะ (selective pressing) และคมในทรานซิชันสั้น

- ลูกนิ่ง: ทั้งสองทีมทำประตูจากลูกนิ่งได้ต่อเนื่อง โดยลิเวอร์พูลโดดเด่นในคอร์เนอร์และลูกฟรีคิกฝั่งข้าง ขณะที่พาเลซได้สกอร์จากเซ็ตเพลย์เพิ่มขึ้นหลังปรับรูปแบบการบล็อกตัวประกบและวิ่งสลับเสา

จุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละทีม

คริสตัล พาเลซ

จุดเด่น: โครง 3-4-2-1 ของกลาสเนอร์ทำงานมีวินัย วิงแบ็กเติมสูงเพื่อสร้างโอเวอร์โหลดด้านข้างและครอสคุณภาพไปยังหมายเลข 9 ที่เด่นเกมอากาศ การเล่นสวนกลับฉับไวโดยใช้ตัวรุกในฮาล์ฟสเปซทำคัทอิน-วิ่งตัดหลังฟูลแบ็กคู่แข่ง ลูกตั้งเตะและจังหวะสอง (second balls) แข็งแรง

จุดด้อย: เมื่อถูกบังคับให้ครองบอลยาวนาน ความต่อเนื่องในแดนสามยังแกว่ง การขึ้นเกมฝากวิงแบ็กทำให้พื้นที่ด้านหลังเปิด หากเจอทีมที่โจมตีพื้นที่หลังฟูลแบ็กได้เฉียบอาจมีปัญหา อีกทั้งเมื่อโดนเพรสซิ่งสูงต่อเนื่อง การเชื่อมบอลจากกองหลังไปมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะยังเสี่ยงเสีย

ลิเวอร์พูล

จุดเด่น: โครงสร้างเพลย์บิลด์ของสลอตยืดหยุ่น 2-3-5 ในเฟสครองบอล ใช้อินเวิร์ตฟูลแบ็ก/เพลย์เมคจากแดนหลังสร้างมุมส่งบอลที่สาม (third-man) การเพรสซิ่งเก็บรีบาวด์เร็ว (counter-press) ทำให้รักษาความกดดันรอบกรอบเขตโทษคู่แข่งได้ต่อเนื่อง เกมรุกฝั่งขวาอันตรายจากตัวทำเกมเท้าซ้ายและการทับซ้อนของฟูลแบ็ก

จุดด้อย: พื้นที่ด้านข้างหลังฟูลแบ็กเมื่อทีมยืนสูงยังเป็นจุดต้องระวัง หากโดนสวนกลับเร็วด้วยบอลยาวข้ามไลน์แรก-สอง นอกจากนี้เมื่อต้องเจอบล็อกต่ำจัดๆ ความเฉียบคมจังหวะสุดท้ายอาจต้องพึ่งลูกตั้งเตะหรือช็อตไกลมากขึ้น

ปัจจัยพิเศษที่อาจส่งผลต่อผลการแข่งขัน

- เซลเฮิร์สต์ พาร์ค: สนามเหย้าพาเลซขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศกดดันและแรงขับจากแฟนบอล โดยเฉพาะเมื่อเกมยังสูสี

- โปรแกรมถี่: ปลายกันยายนโดยปกติทีมใหญ่มีภาระฟุตบอลยุโรปกลางสัปดาห์ หมุนเวียนผู้เล่นอาจส่งผลต่อความเข้มเกมเพรสซิ่งและคุณภาพช่วงท้าย

- สภาพอากาศ: ปลายกันยายนลอนดอนมักไม่สุดโต่ง ส่งผลให้อินเทนซิตี้เกมสูงได้ ทั้งนี้สภาพพื้นสนามและความชื้นอาจมีผลต่อความเร็วลูกและคุณภาพการเพรส

- ความมั่นใจเฮดทูเฮด: 5 เกมลีกหลังสุดที่พบกัน ลิเวอร์พูลชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 แต่พาเลซมีตัวอย่างล่าสุดบุกชนะที่แอนฟิลด์ ทำให้เจ้าถิ่นเชื่อว่ารับมือแท็กติกเพรสสูงได้

ตัวแปรสำคัญของเกม

- ฮาล์ฟสเปซซ้ายของลิเวอร์พูล vs ฮาล์ฟสเปซขวาของพาเลซ: การซ้อนทับของฟูลแบ็ก-ปีกฝั่งซ้ายลิเวอร์พูลจะเปิดพื้นที่หลังไลน์ให้พาเลซสวนกลับ หากการป้องกันทรานซิชัน (rest defense) จัดวางไม่สมดุล

- เกมอากาศในเขตโทษ: ดวลกลางอากาศระหว่างหัวหอกเป้าพาเลซและเซ็นเตอร์ลิเวอร์พูลจะชี้ชะตาลูกนิ่ง/ครอส โดยเฉพาะเสาไกล

- แดนกลางจังหวะสอง: คู่มิดฟิลด์คุมจังหวะพาเลซต้องรับมือบอลตกพื้นหลังการเพรสของลิเวอร์พูล หากเสียจังหวะนี้บ่อยจะถูกยิงระลอกสองทันที

- ความเฉียบคมจังหวะแรกของลิเวอร์พูล: หากได้ประตูนำเร็ว เกมจะไหลไปตามสไตล์คอนโทรล แต่ถ้าตันนาน พาเลซจะยิ่งมั่นใจในบล็อกกลางลึกและรอโต้กลับ

แนวโน้มรูปเกมที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

คาดว่าลิเวอร์พูลจะครองบอลมากกว่า (ราว 58-62%) เดินเกมด้วยรูปแบบ 2-3-5 ดันฟูลแบ็กสูงและกดเพรสคอนเทนในแดนคู่แข่ง พาเลซตั้งรับในบล็อกกลางต่ำ 5-4-1/3-4-2-1 รอฉกฉวยจากบอลยาวช่องกว้าง-เปลี่ยนแกนเร็ว โอกาสยิงรวมอาจอยู่ในระดับกลางค่อนไปสูง โดยลิเวอร์พูลสร้างสรรค์ได้ต่อเนื่องจากฝั่งขวาและบอลตั้งเตะ ส่วนพาเลซหวังคุณภาพมากกว่าปริมาณจากคอนเตอร์แอคแทคและครอสเสาไกล

ฟันธงผลการแข่งขัน พร้อมสกอร์

รูปเกมมีช่วงขับเคี่ยวเข้มในแดนกลาง แต่ความต่อเนื่องในการสร้างโอกาสและเซ็ตเพลย์ของลิเวอร์พูลยังเหนือกว่าเล็กน้อย หากไม่เสียประตูเร็วจากคอนเตอร์ พวกเขามีโอกาสบุกคว้าชัย

คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล

แหล่งอ้างอิง

  • Transfermarkt
  • SofaScore
  • WhoScored
  • เว็บไซต์สโมสรอย่างเป็นทางการ เช่น Real Madrid, Bayern Munich

บทวิเคราะห์โดย: ทีมงานตองเก้า

ติดตามบทความวิเคราะห์ฟุตบอลคุณภาพจากทีมงานตองเก้าได้ทุกวัน

UFAKOREA999

บริการ เว็บ คาสิโนออนไลน์ สล็อต แทงบอลออนไลน์ ยิงปลา เกมส์ไพ่ เงินวอน 24 ชม.

ufakorea999

สล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
ไม่มีขั้นต่ำ ที่ดีที่สุด

UFAKOREA999 เว็บพนันออนไลน์ครบวงจรในเกาหลี รองรับการฝากถอนเงินวอน
พร้อมเกมคาสิโน, สล็อต, แทงบอล และหวยออนไลน์ ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ฝากถอนเงินวอนออโต้ รวดเร็วทันใจ การันตีความปลอดภัย และ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
© 2025 UFAKOREA999 All Rights Reserved. เว็บไซต์นี้สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ควรเล่นอย่างมีสติ
สมัครสมาชิกเข้าสู่ระบบ