นิวคาสเซิ่ล พบ ลิเวอร์พูล

นิวคาสเซิ่ล พบ ลิเวอร์พูล เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2568 ระหว่าง "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถือเป็นแมตช์ที่มีความหมายในหลายมิติ ทั้งในแง่ของอันดับตารางคะแนนและแนวโน้มฤดูกาล โดยปัจจุบัน (ก่อนเกมนัดนี้) นิวคาสเซิ่ลรั้งอันดับ 6 ด้วยคะแนน 7 แต้มจาก 3 นัดแรก ขณะที่ลิเวอร์พูลเก็บได้ 9 แต้มเต็มจาก 3 เกม นำเป็นจ่าฝูงร่วมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอาร์เซน่อล

นิวคาสเซิ่ลของเอ็ดดี้ ฮาว แม้จะมีความแข็งแกร่งในบ้าน แต่ต้องรับมือกับตารางแข่งที่ค่อนข้างโหดในช่วงต้นซีซั่น โดยเจอลิเวอร์พูลต่อจากเกมกับแมนฯ ซิตี้ ขณะเดียวกันฝั่งลิเวอร์พูลของเจอร์เก้น คล็อปป์ เริ่มต้นฤดูกาลด้วยระบบใหม่ที่เริ่มลงตัวขึ้นเรื่อยๆ หลังกำลังเจาะจุดอ่อนจากซีซั่นที่แล้วอย่างเกมรับและแดนกลาง

การเปรียบเทียบสถิติสำคัญ

จากข้อมูลล่าสุดของ SofaScore และ WhoScored ใน 3 นัดแรกของฤดูกาล 2025/26:

• จำนวนการยิงเฉลี่ยต่อเกม: นิวคาสเซิ่ล 15.3 ครั้ง | ลิเวอร์พูล 17.7 ครั้ง
• การยิงตรงกรอบเฉลี่ย: นิวคาสเซิ่ล 5.7 | ลิเวอร์พูล 6.8
• ค่า xG (Expected Goals): นิวคาสเซิ่ล 1.68 | ลิเวอร์พูล 2.12
• การครองบอลเฉลี่ย: นิวคาสเซิ่ล 49% | ลิเวอร์พูล 61%
• จำนวนประตูเสียเฉลี่ย: นิวคาสเซิ่ล 1.0 | ลิเวอร์พูล 0.67

จากสถิติเห็นได้ว่า ลิเวอร์พูลมีความเหนือกว่าในด้านเกมรุกและการครองเกม ขณะที่นิวคาสเซิ่ลยังคงพึ่งจังหวะเปลี่ยนเกมจากโอกาสน้อยครั้งแต่มีประสิทธิภาพ

จุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละทีม

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด: จุดแข็งของทีมอยู่ที่รูปแบบเกมเพรสซิ่งสูงในบ้าน ความแน่นของแดนกลางที่มีบรูโน่ กิมาไรส์ คอยคุมทิศทาง และพลังขับเคลื่อนจากแอนโธนี่ กอร์ดอน และอเล็กซานเดอร์ อิซัค อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนยังอยู่ที่เกมรับริมเส้นโดยเฉพาะแบ็คขวาที่เคียร์แรน ทริปเปียร์เริ่มดูช้าลงเมื่อต้องเจอกับนักเตะเร็วและพลิ้ว

ลิเวอร์พูล: เริ่มเข้ารูปเข้ารอยในโมเดล 3-2-2-3 โดยมีโดมินิก โซบอสซ์ไล และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นหัวใจแดนกลาง การขยับโรเบิร์ตสันมาเล่นแนวรับสามช่วยเพิ่มมิติจากด้านซ้าย ข้อเสียที่ยังต้องระวังคือแนวรับสูง ซึ่งเมื่อเสียบอลกลางสนามมักโดนสวนกลับลึก อย่างที่ไบรท์ตันเกือบฉวยโอกาสได้ในเกมล่าสุด

ปัจจัยพิเศษที่อาจส่งผลต่อผลการแข่งขัน

สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค กลายเป็นหนึ่งในฐานเหย้าที่แข็งที่สุดในลีก โดยนิวคาสเซิ่ลแพ้ในบ้านเพียง 3 จาก 19 เกมเหย้าในฤดูกาลที่แล้ว (ข้อมูลจาก Transfermarkt) อีกทั้งสภาพอากาศทางตอนเหนือของอังกฤษช่วงปลายเดือนสิงหาคมอาจมีฝนตก ซึ่งส่งผลต่อสปีดบอลอย่างมีนัยสำคัญ

ลิเวอร์พูลจะต้องเดินทางต่อเนื่องหลังจากเตะกับเบรนท์ฟอร์ดในกลางสัปดาห์ ขณะที่นิวคาสเซิ่ลเล่นในบ้านต่อเนื่อง ซึ่งด้านสภาพร่างกายอาจมีผลบ้าง โดยเฉพาะแดนกลางที่ใช้พลังงานเยอะ

ตัวแปรสำคัญของเกม

แอนโธนี่ กอร์ดอน vs เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์: หนึ่งในจุดเปลี่ยนจะอยู่ที่การดวลริมเส้นซ้ายของนิวคาสเซิ่ล ซึ่งกอร์ดอนฟอร์มแรง ยิง 2 จ่าย 1 ใน 3 เกม ขณะที่เทรนต์แม้จะมีบทบาทสร้างเกม แต่เกมรับยังมีข้อผิดพลาดให้เห็น การประกบตัวนี้หากกอร์ดอนเบียดได้ นิวคาสเซิ่ลจะมีไพ่เด็ดในการเจาะด้านขวา

โม ซาลาห์: ดาวเตะอียิปต์ยังคงมีอิทธิพลอย่างสูง แม้จะถูกข่าวเรื่องย้ายทีมจากซาอุฯ เล่นงาน แต่จากสถิติ WhoScored ซาลาห์ยังสร้างโอกาสเฉลี่ย 3.7 ครั้งต่อเกมมากสุดในทีม

การวางระบบมิดฟิลด์: หากเอ็ดดี้ ฮาว เลือกแพ็กแดนกลางด้วยแผน 4-5-1 หรือ 4-2-3-1 เพื่อลดพื้นที่แทรกซึมของลิเวอร์พูล เกมจะเป็นไปด้วยความหนาแน่น และโอกาสเกิดพื้นที่สวนกลับก็สูงเช่นกัน

แนวโน้มรูปเกมที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

ลิเวอร์พูลน่าจะครองบอลเป็นหลักในแดนกลาง โดยพยายามบีบพื้นที่สูงและใช้ไดนามิกแดนหน้าทะลวงแนวรับนิวคาสเซิ่ล อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิ่ลนั้นอันตรายเวลาเล่นเกมสวนกลับในบ้าน โดยเฉพาะอิซัคที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี อาจมีจังหวะบอมบ์ใส่หลังแนวลิเวอร์พูลที่เล่นสูง

เกมนี้จึงมีแนวโน้มจะเป็นเกมเปิดแลกกันอย่างระมัดระวัง มีจังหวะเข้าทำทั้งสองฝั่งและคาดว่าจะยิงกันได้หลายลูก

ฟันธงผลการแข่งขัน พร้อมสกอร์

นิวคาสเซิ่ล พบ ลิเวอร์พูล หากพิจารณาจากองค์ประกอบทั้งหมด ลิเวอร์พูลมีความเป็นระบบและเฉียบคมกว่า ในขณะที่นิวคาสเซิ่ลยังต้องหวังจังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุก เกมน่าจะเบียดและมีจุดเปลี่ยนจากความสามารถเฉพาะตัว

คาดการณ์สกอร์: นิวคาสเซิ่ล 1-2 ลิเวอร์พูล

แหล่งอ้างอิง

• Transfermarkt
• SofaScore
• WhoScored
• เว็บไซต์สโมสรอย่างเป็นทางการ เช่น Liverpool FC , Newcastle United FC

หากคุณกำลังมองหาเว็บแทงบอลออนไลน์ที่มั่นคง ราคาดี และเล่นได้ทุกลีกดัง UFAKOREA999 คือทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาด! สมัครง่าย ฝากถอนเร็ว พร้อมทีมแอดมินดูแล 24 ชม. สนใจแทงบอล สมัครสมาชิก คลิก !