บัลแกเรีย พบ สเปน ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ.2568 ระหว่างทีมชาติบัลแกเรียเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมชาติสเปน ถือเป็นเกมที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับทั้งสองทีม ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นนัดที่อยู่ในกลุ่มที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้น แต่ยังมีผลต่ออันดับ FIFA Ranking และภาพรวมของฟุตบอลในภูมิภาคนี้
บัลแกเรียของกุนซือ มิโกรสลาฟ มิชาอิโลฟ อยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายของรุ่นนักเตะ ดาวรุ่งหลายคนได้รับโอกาสลงสนาม แต่ฟอร์มโดยรวมยังไม่ค่อยนิ่งนัก รั้งอันดับที่ 4 ของกลุ่มหลังผ่านไป 4 นัด มีเพียง 3 คะแนนจากเสมอ 3 แพ้ 1 ขาดคุณภาพในพื้นที่สุดท้ายและความผิดพลาดในแนวรับยังเป็นปัญหา
ในขณะที่สเปนของ หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ เดินหน้าแบบมั่นคงในเส้นทางคัดเลือก อยู่ในอันดับ 1 ของกลุ่ม ชนะรวด 4 นัด ยิงได้ 13 ประตู เสียเพียง 1 เท่านั้น ด้วยการผสมผสานของประสบการณ์ (โรดรี้, ดานี่ การ์บาฆาล) กับพลังหนุ่ม (กาบี, ลามีน ยามาล) ทำให้ลา โรฆายังคงไว้ลายทีมเต็งกรุ๊ปอย่างไม่ต้องสงสัย
จากข้อมูลล่าสุดของ SofaScore, WhoScored และ Transfermarkt เราพบความแตกต่างชัดเจนทางด้านสถิติระหว่างสองทีม สเปนมีค่าเฉลี่ยการครองบอลสูงถึง 68.3% ต่อเกม อยู่ในอันดับ 2 จากทุกชาติในยุโรปในรอบคัดเลือก ขณะที่บัลแกเรียทำได้เพียง 43.7%
จำนวนการยิงของสเปนต่อเกมอยู่ที่ 16.5 ครั้ง โดยมีค่า xG (expected goals) อยู่ที่ 2.04 ซึ่งสะท้อนถึงการสร้างโอกาสที่มีคุณภาพ ขณะที่บัลแกเรียยิงเฉลี่ยเพียง 7.4 ครั้ง/เกม และค่า xG อยู่แค่ 0.79 แสดงให้เห็นถึงความฝืดในเกมรุก
เกมรับของสเปนมีความแข็งแกร่ง เสียประตูเฉลี่ยเพียง 0.25 ประตูต่อเกม ขณะที่บัลแกเรียเสียไป 6 ประตูใน 4 เกม เฉลี่ย 1.5 ประตู/นัด และยังไม่มีคลีนชีตในรอบนี้
บัลแกเรีย: จุดเด่นอยู่ที่ความสามารถในเกมสวนกลับแบบใช้พละกำลัง โดยอาศัยนักเตะอย่าง คิริล เดสโปดอฟ ที่มีสปีดและเทคนิคเฉพาะตัว อย่างไรก็ดี จุดอ่อนคือขาดความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย และมักเสียสมาธิในเกมรับช่วงท้ายๆ
สเปน: จุดแข็งยังคงเป็นเกมครองบอลและการเข้าทำพื้นที่แคบโดยใช้การต่อบอลสั้น นักเตะอย่าง เปดรี้ และ กาบี มีบทบาทสำคัญในแดนกลาง จุดอ่อนลึกๆ ยังอยู่ที่การปิดเกมในบางจังหวะที่พลาดโอกาสง่ายๆ และมีปัญหาเล็กน้อยเมื่อต้องเจอทีมที่เล่นตั้งรับลึก
บอลคู่นี้จะเตะที่สนาม บัลแกเรียน อาร์มี สเตเดียม ในกรุงโซเฟีย ซึ่งมักมีบรรยากาศกดดันจากแฟนเจ้าถิ่น อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศในช่วงต้นกันยายนคาดว่าจะเย็นสบาย ไม่เป็นอุปสรรคต่อเกม
สิ่งที่น่าสนใจคือความฟิตของทีมชาติสเปนที่เพิ่งลงเล่นมาเพียง 3 วันก่อนเกมนี้ ในขณะที่บัลแกเรียมีเวลาพักมากกว่าเล็กน้อย นอกจากนี้ ทีมของ เด ลา ฟูเอนเต้ ยังมีนักเตะหลายรายเล่นในโปรแกรมหนักกับสโมสรเมื่อปลายเดือนสิงหาคม เช่น โรดรี้ และ นิโก้ วิลเลี่ยมส์
คิริล เดสโปดอฟ (บัลแกเรีย): นักเตะที่เป็นความหวังเดียวด้านเกมรุก ด้วยการลากตัดเข้าในจากริมเส้น ได้ยิงถึง 3 นัดในรอบคัดเลือกนี้ และมีค่าสร้างโอกาสเฉลี่ย 1.9 ครั้ง/เกม
ลามีน ยามาล (สเปน): ปีกขวาวัย 17 ปีจากบาร์เซโลนา ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในยูโร 2024 และเดินหน้าทำประตูอย่างต่อเนื่องในรอบคัดเลือก ติดทอปชาร์ตแอสซิสต์ที่ 3 ครั้ง
โรดรี้ (สเปน): กองกลางจากแมนฯ ซิตี้ มีอิทธิพลกับจังหวะเกมทั้งรุกและรับ ควบคุมการเล่นโดยเฉลี่ยผ่านบอลแม่นยำกว่า 93% ต่อเกม และสร้างสมดุลต์ให้แดนกลางอย่างชัดเจน
รูปเกมมีแนวโน้มว่า สเปนจะเป็นฝ่ายครองบอลและเปิดเกมบุกเข้าใส่ตามสไตล์ ส่วนบัลแกเรียจะตั้งรับลึกโดยเน้นการบีบพื้นที่กลางสนามและใช้เกมสวนกลับเพื่อฉวยจังหวะเข้าสู่พื้นที่สุดท้าย
มีความเป็นไปได้ที่สเปนจะเจาะได้ยากในครึ่งแรกก่อนจังหวะเกมจะเปิดในครึ่งหลัง หากบัลแกเรียคุมแดนกลางไม่อยู่ โอกาสโดนยิงถล่มย่อมสูง ข้อได้เปรียบของสเปนคือมีตัวเลือกในการเปลี่ยนเกมมากกว่า ทั้งจากเดอะเบนช์ เช่น เฟราน ตอร์เรส และ อเลฆานโดร การ์นาโช
บัลแกเรีย พบ สเปน เมื่อพิจารณาจากสถิติแท็คติก ฟอร์มการเล่น และความพร้อมของผู้เล่นทีมชาติสเปนเหนือกว่าทั้งระบบและคุณภาพเฉพาะตัว เกมนี้แม้บัลแกเรียจะเล่นในบ้าน แต่ไม่น่าจะต้านความหลากหลายในเกมรุกของแข้งกระทิงดุได้ครบ 90 นาที
ฟันธง: บัลแกเรีย 0-3 สเปน
หากคุณกำลังมองหาเว็บแทงบอลออนไลน์ที่มั่นคง ราคาดี และเล่นได้ทุกลีกดัง UFAKOREA999 คือทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาด! สมัครง่าย ฝากถอนเร็ว พร้อมทีมแอดมินดูแล 24 ชม. สนใจแทงบอล สมัครสมาชิก คลิก !
บริการ เว็บ คาสิโนออนไลน์ สล็อต แทงบอลออนไลน์ ยิงปลา เกมส์ไพ่ เงินวอน 24 ชม.