อาร์เมเนีย พบ โปรตุเกส

อาร์เมเนีย พบ โปรตุเกส เกมคัดเลือกโซนยุโรป ฟุตบอลโลก 2026 คู่ “อาร์เมเนีย พบ โปรตุเกส” วันอังคารที่ 6 กันยายน 2568 เป็นแมตช์ที่ความหมายต่างกันชัดเจน ฝั่งเจ้าถิ่นต้องการแต้มในรังเพื่อเกาะกลุ่มลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ ขณะที่โปรตุเกสในฐานะเต็งแชมป์กลุ่มมุ่งหน้าเก็บสามคะแนนเพื่อยึดโมเมนตัมต่อเนื่อง

โปรตุเกสยุคโรแบร์โต้ มาร์ตีเนซวางรากฐานจากคัดยูโร 2024 ที่ชนะ 10 นัดรวด (ยิง 36 เสีย 2) เมื่อรวมกับทัวร์นาเมนต์ยูโร 2024 ที่ทีมเล่นด้วยโครงสร้างเกมรับเหนียวแน่นและเกมรุกมีความหลากหลาย ทำให้ “ทัพฝอยทอง” ยังคงมาตรฐานระดับท็อปของทวีป ส่วนอาร์เมเนียหลังผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านในเวทียุโรป 2024-25 ทีมได้คอร์แกนหลักอย่าง เอดูอาร์ด สเปิร์ตซยาน, ลูคัส เซลารายัน, กรานต์-เลออน รานอส และทีกราน บาร์เซฆยาน นำทัพ จุดแข็งคือเกมเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่คมและลูกตั้งเตะ

สนามแข่งขันคาดว่าเป็น Republican Stadium (ยเรวาน) ซึ่งเป็นรังเหย้าที่แฟนบอลหนาแน่น สภาพอากาศต้นกันยายนที่ยเรวานมักอุ่นสบายช่วงค่ำ และความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 1,000 เมตรช่วยให้เจ้าถิ่นได้เปรียบเล็กๆ ในมิติความคุ้นเคยของสภาพแวดล้อม

การเปรียบเทียบสถิติสำคัญ

- ประสิทธิภาพเกมรุก: โปรตุเกสจากข้อมูลรอบคัดเลือกยูโร 2024 ยิงเฉลี่ยมากกว่า 3 ประตู/นัด และสร้างโอกาส (xG) ต่อเกมในระดับสูงสุดของยุโรป ขณะที่อาร์เมเนียเด่นในการเปลี่ยนเกมเร็วและยิงไกล โดยมีสัดส่วนประตูจากทรานซิชันและลูกตั้งเตะสูงกว่าค่าเฉลี่ยทีมระดับกลาง

- การยิงและยิงตรงกรอบ: โปรตุเกสมักผลิตจำนวนยิงรวม 15-18 ครั้ง/นัดในเกมพบทีมชั้นรอง และยิงตรงกรอบมากกว่าอาร์เมเนียอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนอาร์เมเนียตัวเลขยิงรวมมักต่ำกว่า แต่คุณภาพโอกาสจากคอนเตอร์หรือความผิดพลาดคู่แข่งคมกว่าเกมบุกเซ็ตอัพยาวๆ

- การครองบอลและแดนคู่แข่ง: โปรตุเกสครองบอลเฉลี่ยมากกว่า 60% เมื่อพบทีมที่ระดับต่ำกว่า เน้นคุมเกมในแดนคู่แข่งและยืนตำแหน่ง 3-2-5 ในเฟสครองบอล ขณะที่อาร์เมเนียยอมถอยเป็น 4-4-2/4-5-1 ในระยะกลางถึงต่ำ รอจังหวะสวนกลับ

- เกมรับและ xGA: โปรตุเกสเสียประตูน้อยมากในเกมทางการตั้งแต่มาร์ตีเนซเข้ามาคุม โดยอัตราคลีนชีตอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนอาร์เมเนีย xGA ต่อเกมสูงขึ้นชัดเจนเมื่อพบคู่แข่งระดับท็อป และมีช่วงเปราะจากการป้องกันครึ่งช่อง (half-space) เมื่อไลน์กองกลางถอยลึกเกินไป

จุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละทีม

อาร์เมเนีย

จุดเด่น: วินัยเกมรับในบล็อกกลาง-ต่ำ, เกมสวนกลับจากการพาบอลขึ้นของสเปิร์ตซยานและบาร์เซฆยาน, จังหวะยิงไกลและลูกตั้งเตะที่อันตราย (เซลารายันเปิดได้คม, เซ็นเตอร์อย่าง วารัสดัต ฮาโรยาน แข็งแกร่งในอากาศ) นอกจากนี้การไล่บีบระยะแรกของกรานต์-เลออน รานอสช่วยสร้างเทิร์นโอเวอร์ในแดนบนเป็นระยะ

จุดด้อย: การป้องกันครึ่งช่องเมื่อปีกถูกล็อกไว้ต่ำทำให้ฟูลแบ็กถูก 1v2 บ่อยครั้ง, พื้นที่ด้านหลังฟูลแบ็กเปิดเมื่อโดนสลับแกนและโอเวอร์โหลดฝั่งบอล, จังหวะเริ่มเกมรุกจากแนวหลังภายใต้แรงเพรสสูงยังมีผิดพลาด

โปรตุเกส

จุดเด่น: โครงสร้างเกมรุกยืดหยุ่น (3-2-5/2-3-5) ผ่านการอินเวิร์ตของฟูลแบ็กอย่างชูเอา คันเซโล/ดีโอโก ดาโลต์, คู่มิดฟิลด์สร้างสรรค์อย่างแบร์นาร์โด ซิลวา-บรูโน แฟร์นานเดส เพิ่มมิติทะลุครึ่งช่อง, ปีกซ้ายอย่างราฟาเอล เลเอา ยืดความกว้างและชนะ 1v1 สูง, ลูกกลางอากาศจากเซ็ตเพลย์อันตราย (รูเบน ดิอาส, อันโตนิโอ ซิลวา/กอนซาโล อินาซิโอ) เกมรับในทรานซิชันดีเพราะมีตัวคุมช่องอย่างชูเอา ปาลินญา

จุดด้อย: เมื่อคู่แข่งแพ็กบล็อกลึกมาก โปรตุเกสมีช่วงที่ความเร็วในการหมุนบอลตกลงและพึ่งพาคุณภาพเฉพาะตัว, ช่องว่างหลังฟูลแบ็กอินเวิร์ตอาจเปิดให้โดนสวนกลับหาก “รีสโตร์เชป” ช้ากว่าจังหวะ

ปัจจัยพิเศษที่อาจส่งผลต่อผลการแข่งขัน

- เหย้า-เยือน: ยเรวานเป็นสนามที่แฟนบอลช่วยยกระดับเข้มข้น ทำให้โปรตุเกสต้องรับมือกับแรงกดดันและจังหวะเกมที่กระแทกมากขึ้น

- ความสูงและสภาพอากาศ: ความสูงใกล้ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลมีผลต่อจังหวะบอลยาวและความเหนื่อยล้าเล็กน้อย โดยเฉพาะช่วงท้ายเกม

- โปรแกรมทีมชาติชุดกันยายน: การบริหารภาระร่างกายนักเตะที่เพิ่งเปิดฤดูกาลลีกยุโรปสำคัญต่อความสด โดยเฉพาะฝั่งโปรตุเกสที่ตัวหลักหลายคนรับภาระหนักในสโมสรใหญ่

ตัวแปรสำคัญของเกม

- เอดูอาร์ด สเปิร์ตซยาน vs โครงสร้างคุมครึ่งช่องของโปรตุเกส: หากสเปิร์ตซยานได้หมุนตัวรับบอลระหว่างไลน์ จะเป็นจุดเริ่มสวนกลับที่อาร์เมเนียอันตรายที่สุด

- ราฟาเอล เลเอา vs ฟูลแบ็กขวาอาร์เมเนีย: เลเอาดวล 1v1 และการตัดเข้าในพร้อมลากดึงแนวรับ ทำให้พื้นที่ครึ่งช่องซ้ายเปิดสำหรับบรูโน/แบร์นาร์โดแทรก

- ชูเอา ปาลินญา: คีย์ในการ “หยุดดาบสองคม” ของอาร์เมเนีย หากปาลินญาตัดเกมแรกได้ โปรตุเกสจะรีไซเคิลการบุกกดไว้ได้ยาว

- ลูกตั้งเตะ: อาร์เมเนียมีโอกาสจากฟรีคิก/คอร์เนอร์ ส่วนโปรตุเกสก็แข็งแกร่งในสถานการณ์นี้ เกมอาจพลิกจากจังหวะเดียว

- ทางเลือกเบอร์ 9 ของโปรตุเกส: หากใช้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะได้มิติการปิดสกอร์ในกรอบและกลางอากาศสูง หากเป็นกอนซาโล รามอส/ดิโอโก้ โชต้า เกมเพรสและการเชื่อมระหว่างไลน์จะลื่นขึ้น

แนวโน้มรูปเกมที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

โปรตุเกสน่าจะคุมบอลมากกว่า 60% บุกเป็นฝ่ายเดียวช่วงยาว ใช้การโอเวอร์โหลดฝั่งซ้ายผ่านเลเอา-บรูโน/แบร์นาร์โด และอินเวิร์ตแบ็กเพื่อสร้างตัวเหนือกว่าในแดนกลาง อาร์เมเนียจะถอยเป็น 4-5-1/4-4-2 รอจังหวะสวนกลับด้านที่ฟูลแบ็กโปรตุเกสเติมสูง โดยเล็งบอลช่องหลังแบ็กและครึ่งช่องให้สเปิร์ตซยานหรือเซลารายันหันหน้าเข้าหาประตู

คาดว่าจำนวนโอกาสยิงรวมของโปรตุเกสจะมากกว่าชัดเจน ขณะที่อาร์เมเนียหวังประสิทธิภาพดีกว่าปริมาณ (few chances, high value) หากโปรตุเกสขึ้นนำเร็ว เกมจะไหลเข้าทางทีมเยือน แต่ถ้าสกอร์นิ่งนาน อาร์เมเนียมีลุ้นจากลูกตั้งเตะหรือจังหวะสวนกลับจบคม

ฟันธงผลการแข่งขัน พร้อมสกอร์

ด้วยความครบเครื่องด้านแท็คติก คุณภาพรายบุคคล และมาตรฐานเกมรับที่ไว้ใจได้ โปรตุเกสมีภาษีเหนือกว่า แต่จะไม่ใช่เกมง่ายในยเรวาน คาดว่าโปรตุเกสคุมจังหวะและค่อยๆ เจาะจากครึ่งช่องซ้าย ปิดเกมด้วยความต่างเฉียบคม

ฟันธง: อาร์เมเนีย 0-2 โปรตุเกส

แหล่งอ้างอิง

• Transfermarkt
• SofaScore
• WhoScored

หากคุณกำลังมองหาเว็บแทงบอลออนไลน์ที่มั่นคง ราคาดี และเล่นได้ทุกลีกดัง UFAKOREA999 คือทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาด! สมัครง่าย ฝากถอนเร็ว พร้อมทีมแอดมินดูแล 24 ชม. สนใจแทงบอล สมัครสมาชิก คลิก !