เปแอชเช พบ เรอัล มาดริด

เปแอชเช พบ เรอัล มาดริด การแข่งขันนัดสำคัญในรายการ FIFA Club World Cup วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568 ระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เปแอชเช) แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2024/25 และ เรอัล มาดริด แชมป์โกปา ลีเบอร์ตาดอเรส ที่จัดขึ้นในสนามกลาง ณ คิง อับดุลลาห์ สปอร์ตซิตี้ เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นการพบกันของสองยอดทีมที่มีประวัติศาสตร์ต่างทวีป แต่คุณภาพไม่เป็นรองกัน

เปแอชเช ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ก้าวสู่รอบสุดท้ายของ Club World Cup ได้อย่างแข็งแกร่ง หลังจากคว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยมีแกนหลักอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ยังอยู่ในทีมหลังปฏิเสธย้ายทีมเมื่อซัมเมอร์ ร่วมกับนักเตะตัวความหวังอย่าง วิตินญา, อุสมาน เดมเบเล่ และจานลุยจิ ดอนนารุมมา

เรอัล มาดริด ภายใต้การนำของ การ์โล อันเชล็อตติ กลับสู่บัลลังก์แห่งอเมริกาใต้อีกครั้ง หลังชิงเปลี่ยนสถานะไปแข่งขันในโกปา ลีเบอร์ตาดอเรส ตามโครงสร้างใหม่ของสโมสรยุโรปบางทีม และสามารถคว้าแชมป์ทะลวงเข้ารอบสุดท้าย Club World Cup ได้อย่างน่าเกรงขาม โดยมีจู๊ด เบลลิงแฮม ที่ระเบิดฟอร์มอย่างต่อเนื่อง, โรดรีโก้ และ เอดูอาร์โด้ คามาวิงกา เป็นตัวหลักของทีม

การเปรียบเทียบสถิติสำคัญ

สถิติเฉลี่ยจากรอบก่อนหน้า (รอบรองชนะเลิศ)

• เปแอชเช: ยิงตรงกรอบ 6.8 ครั้งต่อเกม, xG (ค่าโอกาสยิงประตู) = 2.34, ครองบอล = 62%, ผ่านบอลสำเร็จ = 88%
• เรอัล มาดริด: ยิงตรงกรอบ 5.1 ครั้งต่อเกม, xG = 1.65, ครองบอล = 54%, ผ่านบอลสำเร็จ = 90%

จากตัวเลขจะเห็นว่าเปแอชเชมีความได้เปรียบในด้านการสร้างโอกาสและการครองบอล แต่เรอัล มาดริดมีความแน่นอนในจังหวะสุดท้าย โดยมีค่าความแม่นยำในการจบสกอร์ดีกว่าเล็กน้อยแม้ได้โอกาสน้อยกว่า

จุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละทีม

เปแอชเช

จุดเด่น: เกมรุกริมเส้นมีมิติหลากหลายผ่านปีกความเร็วสูงอย่าง เดมเบเล่ และเอ็มบัปเป้ อีกทั้งการขึ้นเกมจากแดนหลังมีความแม่นยำสูงจากฟาเบียน รุยซ์ และมันวยล อูการ์เต้

จุดด้อย: การยืนป้องกันในลูกตั้งเตะและเกมสวนกลับที่ยังมีจุดเปราะ โดยเฉพาะด้านขวาที่จาโช่ มูเคียเล่ แสดงความไม่แน่นอน

เรอัล มาดริด

จุดเด่น: มีความยืดหยุ่นทางแทคติกส์สูง และประสบการณ์ในเกมระดับชิงแชมป์ มิดฟิลด์ชุดใหม่ คามาวิงกา-โชอาเมนี-เบลลิงแฮม มีพลังสูงและเชื่อมเกมดี

จุดด้อย: แนวรับยังมีปัญหาการดวลตัวต่อตัว โดยเฉพาะเมื่อบรรทัดหลังกระชับเกิน และการลงตัวของแบ็คซ้าย (นาโช่) ยังไม่เสถียรในระบบ 4-3-1-2

ปัจจัยพิเศษที่อาจส่งผลต่อผลการแข่งขัน

สภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนและความชื้นสูงในเจดดาห์อาจส่งผลต่อเกมรับของทั้งสองทีม โดยเฉพาะทีมที่เน้นเล่นเกมรุกเร็วอย่างเปแอชเช ซึ่งต้องบริหารพละกำลังอย่างรัดกุม ขณะที่เรอัล มาดริดซึ่งมีดีกรีเกมใหญ่ จะบริหารเวลาและสปีดเกมได้แต่แรก

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคืออาการบาดเจ็บของ ดานี่ การ์บาฆาล ที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะฟิตทันหรือไม่ หากลงไม่ได้ เชื่อว่าเกมรับมาดริดด้านขวาจะมีช่องโหว่ที่เอ็มบัปเป้รอใช้ประโยชน์

ตัวแปรสำคัญของเกม

คีเลียน เอ็มบัปเป้ vs อันโตนิโอ รูดิเกอร์: การดวลกันหนึ่งต่อหนึ่งระหว่างสองผู้เล่นตัวท็อปถือเป็นกุญแจสำคัญ หากรูดิเกอร์สามารถปิดทางเอ็มบัปเป้ได้อย่างได้ผล โอกาสของเปแอชเชจะลดลงทันที

จู๊ด เบลลิงแฮม: หากมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษสามารถครองพื้นที่ตรงกลางได้ เปแอชเชจะต้องเปลี่ยนแผนเป็น 4-2-3-1 เพื่อเน้นเต็มพื้นที่แดนกลาง หรือไม่ก็ต้องส่งมาร์โก อาเซนซิโอลงมาช่วยประคอง

แนวโน้มรูปเกมที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

เปแอชเชน่าจะพยายามยึดครองบอลและต่อบอลสร้างพื้นที่ โดยหลุยส์ เอ็นริเก้ น่าจะวางระบบ 4-3-3 ใช้ความเร็วของเดมเบเล่ และเอ็มบัปเป้เป็นอาวุธหลักฝั่งซ้าย ขณะเดียวกัน เรอัล มาดริดอาจจะเน้นรับแล้วรอจังหวะโต้กลับ โดยใช้ โมดริช หรือ เฟเด บัลเบร์เด้ เป็นคนกำหนดจังหวะ รับแล้วสวนเป็นคีย์ลับ

เกมมีแนวโน้มที่จะสูสีในช่วงแรก และอาจถูกตัดสินด้วยความแตกต่างเพียงเล็กน้อยในแดนกลาง หรือในกรอบเขตโทษ หากมีประตูขึ้นนำเร็ว ฝ่ายที่เป็นรองจะต้องเปิดพื้นที่และมีความเสี่ยงในการเสียเพิ่ม

ฟันธงผลการแข่งขัน พร้อมสกอร์

เปแอชเช พบ เรอัล มาดริด ด้วยรูปเกมที่สูงทั้งในเทคนิคและแทคติก หากฝั่งมาดริดสามารถปิดไม่ให้เอ็มบัปเป้เจาะเข้าเขตโทษได้บ่อย พวกเขามีโอกาสเฉือนชนะหรือยันถึงช่วงต่อเวลา อย่างไรก็ตาม สภาพร่างกายและแรงจูงใจครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเปแอชเชที่ต้องการถ้วยใบนี้อาจเป็นแรงผลักสำคัญ

ฟันธง: เปแอชเช 2-1 เรอัล มาดริด

หากคุณกำลังมองหาเว็บแทงบอลออนไลน์ที่มั่นคง ราคาดี และเล่นได้ทุกลีกดัง UFAKOREA999 คือทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาด! สมัครง่าย ฝากถอนเร็ว พร้อมทีมแอดมินดูแล 24 ชม. สนใจแทงบอล สมัครสมาชิก คลิก !